Home
โทร 02 669 3254 - 63 |
Sitemap
|
สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
CO-OPERATIVE LEAGUE OF THAILAND
เมนู
สันนิบาตสหกรณ์ฯ
ประวัติสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ทำเนียบผู้บริหารสันนิบาตแห่งประเทศไทย
วิสัยทัศน์ และพันธกิจ
นโยบายการดำเนินการ
อำนาจหน้าที่
แผนพัฒนาสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
ระเบียบสันนิบาตสหกรณ์ฯ ว่าด้วยสันนิบาตจังหวัด
แผนที่ สสท.
ระบบงาน สันนิบาตสหกรณ์ฯ
โครงสร้างองค์กร
โครงสร้างองค์กร
โครงสร้างผู้บริหาร
คณะกรรมการดำเนินการฯ ชุดที่ 26
หน่วยงานภายใน
ผู้อำนวยการ
สายงานบริหาร
สายงานส่งเสริมสหกรณ์
สายงานพัฒนาธุรกิจ
สถาบันพิทยาลงกรณ์
สำนักที่ปรึกษาและช่วยเหลือสหกรณ์ทางกฎหมาย
ฝ่ายตรวจสอบภายใน
เกี่ยวกับสหกรณ์
ประวัติพระบิดา
วิวัฒนาการสหกรณ์ไทย
ประเภทสหกรณ์
หลักการณ์ อุดมการณ์ และวิธีการสหกรณ์
ขั้นตอนการจัดตั้งสหกรณ์
พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 (ฉบับสมบูรณ์)
สารสนเทศสหกรณ์
ผลิตภัณฑ์สหกรณ์
ติดต่อเรา
ข่าวประชาสัมพันธ์
หน้าแรก
ข่าวประชาสัมพันธ์
กรมส่งเสริมสหกรณ์หนุนสหกรณ์แลกเปลี่ยนผลผลิตช่วงยุคโควิด พร้อมรุกตลาดออนไลน์
โดย นางสาวสุภ์จิตรา ปิยะจันทร์
วันที่ 15 ก.ย. 2564 เวลา 13:51 น.
543
กรมส่งเสริมสหกรณ์หนุนสหกรณ์แลกเปลี่ยนผลผลิตช่วงยุคโควิด พร้อมรุกตลาดออนไลน์
แลกเปลี่ยนผลผลิต-รุกตลาดค้าออนไลน์
ช่องทางกระจายสินค้าสหกรณ์ยุคโควิด-19
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยสถานการณ์โควิด-19 บางช่วงเวลาระบบโลจิสติกส์มีปัญหา ทำให้การกระจายสินค้าจากแหล่งผลิต ไม่เป็นไปตามเป้า ตลาดไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้เกิดปัญหาทางด้านราคา โดยเฉพาะผลผลิตอายุสั้น อย่างผลไม้ ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์มีนโนบายให้สหกรณ์ต่าง ๆ มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาความ เดือดร้อนของเกษตรกรสมาชิกได้ระดับหนึ่ง
“ในช่วงโควิด-19 ทำให้การขนส่ง การค้าการขายยากลำบาก เราก็เลยทำโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน อย่างเช่น ข้าวของทางภาคอีสานแลกกับผลไม้ทางภาคใต้ในช่วงที่ผลไม้ออกมามาก ๆ เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน หรือ แลกสินค้าประมง เช่น ปลาเค็ม ปลาหมึกแห้ง สหกรณ์ต่าง ๆ ก็มีการแลกเปลี่ยนสินค้ากัน ทำมาได้ระยะหนึ่งก็มีผลตอบรับที่ดี”
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เผยถึงการแก้ปัญหาการกระจายผลไม้จากแหล่งผลิตในช่วง ที่ผ่านมา โดยระบุว่ามีการแลกเปลี่ยนผลผลิตระหว่างข้าวกับผลไม้(ข้อมูล ณ 30 ส.ค.64)ระหว่างสหกรณ์ด้วยกัน จำนวน 1,993.94 ตัน รวมมูลค่ากว่า 54.93 ล้านบาท แบ่งเป็น ข้าว 1,065.94 ตัน มูลค่า 27.97 ล้านบาท ผลไม้ 928 ตัน มูลค่า 26.95 ล้านบาท จากสถาบันเกษตรกรต้นทาง 34 แห่งใน 20 จังหวัด และสหกรณ์ปลายทาง/หน่วยงานราชการ 280 แห่งใน 61 จังหวัด
แม้ว่าขณะนี้ปัญหาผลไม้ทางภาคใต้จะคลี่คลาย เพราะอยู่ในช่วงปลายฤดู แต่ทว่าข้าวกลับมีปัญหา โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิในแถบภาคอีสานที่ขณะนี้ราคาตกต่ำเป็นประวัติการณ์ สนนราคาข้าวเปลือกขณะนี้อยู่ที่เกวียนละ 9,000-10,000 บาทเท่านั้น ขณะเดียวกันมีข้าวจากฤดูกาลที่แล้ว(ปีการผลิต63/64)อยู่ในสต๊อคอีกจำนวนมาก ในขณะที่ผลผลิตข้าวในฤดูกาลใหม่(ปีการผลิต 64/65)ที่กำลังจะออกมาในช่วงปลายปีนี้อีกจำนวนมหาศาล ทำให้หลายสหกรณ์มีความจำเป็นต้องระบายข้าวในสต๊อคเพื่อใช้ยุ้งฉางเป็นที่เก็บผลผลิตข้าวของฤดูกาลใหม่
ปัจจุบันมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ดำเนินธุรกิจรวบรวม จำหน่ายและแปรรูปข้าว จำนวน 424 แห่ง ใน 56 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีสหกรณ์ที่ทำโรงสีได้มาตรฐานจีเอ็มพี(GMP) มีอยู่ทั้งหมด 60 แห่ง ที่ผลิตสินค้าข้าวได้มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะอนามัยเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
โดยแต่ละปีมีปริมาณข้าวที่รวบรวมผ่านระบบสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรกว่า 2.28 ล้านตัน รวบรวมเพื่อจำหน่วย 2.17 ล้านตันและรวบรวมเพื่อแปรรูป 0.11 ล้านตัน ประกอบด้วยข้าวสายพันธุ์ต่าง ๆ อาทิ ข้าวหอมมะลิ 105 ข้าวหอมปทุม ข้าวขาว ข้าวเหนียวและข้าวตลาดเฉพาะ ได้แก่ ข้าว กข43 ข้าว กข79 ข้าวสีและข้าวพื้นเมือง เช่น ข้าวสังข์หยด ข้าวเจ๊กเชย ข้าวเหลืองปะทิว ข้าวไร่ดอกข่า เป็นต้น
ส่วนการสนับสนุนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในการรวบรวมและแปรรูปผลผลิตนั้น นายวิศิษฐ์กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนอุปกรณ์การตลาดที่จำเป็นให้เพียงพอและครบวงจรเพื่อให้สหกรณ์รวบรวมข้าวในพื้นที่ให้มากที่สุด อย่างเช่น โกดัง ลานตาก เครื่องชั่ง ไซโล เครื่องอบลดความชื้น รถตักล้อยาง รถโฟล์คลิฟท์ เครื่องสีข้าว เครื่องขัดขาวและเครื่องยิงสี เป็นต้น
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ยังกล่าวถึงช่องทางการตลาดของข้าวว่า นอกจากมีการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างสหกรณ์ด้วยกันแล้ว ยังมีการจำหน่ายทางออนไลน์โดยผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Shopee Lazada หรือแอพพลิเคชั่น ที่เราสร้างขึ้นมาเอง ได้แก่ Co-op click และ Co-op Shop เป็นต้น โดยกรมได้สนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้กับสหกรณ์ต่าง ๆ โดยความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ธ.ก.ส.
นอกจากนี้ยังจัดโครงการอบรมให้ความรู้แก่สหกรณ์ต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่กระบวนการผลิต การแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนการจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภค “ในแต่ละปีเราจะมีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะกับการจำหน่ายในช่องทางการตลาด ต่าง ๆ ทั้งรูปลักษณ์ ขนาดและราคาที่มีปริมาณเหมาะกับสังคมเมือง แต่ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่การออกแบบบรรจุภัณฑ์จะเป็นอีกลักษณะหนึ่ง”นายวิศิษฐ์เผย
นอกจากการค้าทางออนไลน์แล้วยังมี ร้านค้าสหกรณ์ที่เปิดให้บริการ ซึ่งในกรุงเทพมีร้านค้าของชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย(ชสท.) ถ.งามวงศ์วาน ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ร้านสหกรณ์กรุงเทพและร้านสหกรณ์พระนคร ส่วนต่างจังหวัด นอกจากซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ จำนวน 770 แห่งทั่วประเทศแล้ว ยังมีศูนย์จำหน่ายสินค้าสหกรณ์ในแต่ละจังหวัดและสำนักงานสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศอีกด้วย
“ยุคโควิดเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ เราต้องช่วยเหลือดูแลกัน ลดค่าใช้จ่ายผู้บริโภคด้วย จึงขอเชิญชวนผู้บริโภค พี่น้องประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าสหกรณ์ในจังหวัดต่าง ๆ ทั้งที่ร้านและในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เราได้จัดเป็นช่องทางจำหน่าย นอกจากได้สินค้าดีมีคุณภาพแล้วยังได้ช่วยเหลือพี่น้องสมาชิกสหกรณ์ด้วยกันอีกด้วย” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเชิญชวน
ขณะที่ นายณัฐพล แป้นนอก สหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวสำหรับร้อยเอ็ดเป็นเมืองข้าว มีพื้นที่ปลูกข้าวทั้งหมด กว่า 3 ล้านไร่ เป็นหอมมะลิ105 ให้ผลผลิตทั้งหมดกว่า 9 แสนตันต่อฤดูการผลิต เฉพาะในส่วนของสหกรณ์ จ.ร้อยเอ็ด มีทั้งหมด 20 แห่งสามารถรวบรวมข้าวได้ประมาณ 1.7 แสนตัน มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท โดยมีโรงสีของสหกรณ์จำนวน 10 โรง และสหกรณ์ขนาดใหญ่สามารถรวบรวมผลผลิตข้าวมากที่สุดคือสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด ซึ่งขณะนี้ มีข้าวค้างอยู่สต๊อคมากที่สุดปริมาณ 30,000 ตันและขณะนี้ได้เสนอเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว
“ทุกปีไม่มีปัญหา แต่มาปีนี้เจอภาวะโควิด-19 เราไม่สามารถส่งออกได้ รวมทั้งโรงสีต่าง ๆ ในจังหวัดเจอปัญหาเหมือนกัน ทำให้ราคาข้าวตอนนี้ตกลงมาค่อนข้างเยอะช่วงต้นฤดูเราซื้อไว้ที่ราคา 12-13 บาทต่อกิโลกรัม วันนี้เหลือเพียง 9-10 บาทเท่านั้น ก็เป็นปัญหาพอสมควร จะขายออกไปก็ขาดทุน จะเก็บไว้ก็ข้าวฤดูกาลใหม่ก็ใกล้เข้ามา ไม่มียุ้งฉางเก็บ เพราะข้าวในสต๊อคก็ยังเหลืออยู่เยอะ ผลกระทบก็จะเกิดกับสมาชิกแน่นอน”
สหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ดยอมรับว่าโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าสหกรณ์ช่วยในการระบายข้าวได้มาก โดยเฉพาะโครงการข้าวแลกผลไม้ทางภาคใต้ โดยการสนับสนุนของกรมส่งเสริมสหกรณ์นั้นสามารถช่วยระบายข้าวออกไปได้กว่า 600 ตัน ที่สำคัญพี่น้องชาวร้อยเอ็ดก็ได้รับประทานผลไม้สด ๆ จากสวนด้วย
“เดือนที่แล้วทางกรมส่งเสริมสหกรณ์เองก็ได้หาทางช่วยระบายข้าวโดยเอาลงไปแลกกับผลไม้ทางภาคใต้ ทางร้อยเอ็ดก็ได้ทานผลไม้สด ๆ จากทางภาคใต้ ส่วนทางใต้ก็ได้ทานข้าวหอมจากร้อยเอ็ด หลัก ๆ ที่ส่งไปมี 2 ที่ คือ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.ร้อยเอ็ด จำกัด กับสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด เพราะทั้งสองสหกรณ์มีการแปรรูปข้าวสารตลอดปี ช่วงไหนไม่มีผลไม้ก็จะแลกกับอาหารทะเล”นายณัฐพลกล่าวย้ำ
ด้าน นายเรียม โกรัมย์ ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรกระสัง จำกัด อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ กล่าวยอมรับว่าจำนวนสมาชิกสหกรณ์กว่า 4,000 ครอบครัวขณะนี้อยู่ภาวะลำบาก เนื่องจากราคาข้าวเปลือกตอนนี้อยู่ที่ 9-10บาท ต่อกิโลกรัมเท่านั้น หากสหกรณ์รับซื้อข้าวจากสมาชิกมาเก็บสต็อคเพื่อแปรรูปเป็นข้าวสารก็ยังไม่มีช่องทางการจำหน่ายมากนัก ที่ผ่านมาสหกรณ์ได้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าสหกรณ์ โดยแลกผลไม้จากทางภาคใต้ สามารถได้ระบายข้าวออกไปได้ประมาณ 100 ตัน ซึ่งก็ยังไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ จึงขอฝากไปยังพี่น้องคนไทยมาช่วยซื้อข้าวสหกรณ์กัน ของดีราคาถูกนั้นมีอยู่จริง”ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรกระสัง จำกัด ย้ำทิ้งท้าย
กิจกรรมล่าล่าสุด
15 ก.ย. 64
คณะกรรมการสันนิบาตสหกรณ์จังหวัดนครปฐม
133 ครั้ง
15 ก.ย. 64
ศิลปะการเจรจาต่อรองและติดตามหนี้ค้างชำระ รุ่นที่ 4
226 ครั้ง
15 ก.ย. 64
สมาชิกสหกรณ์เข้มแข็ง สหกรณ์ยั่งยืน รุ่นที่ 4
160 ครั้ง
15 ก.ย. 64
สสจ.ขอนแก่นจัดอบรมกฎหมายสหกรณ์ทุกประเภท
539 ครั้ง
15 ก.ย. 64
สอ.ศธ. ร่วมสัมมนาและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565
411 ครั้ง
ดูทั้งหมด
เราใช้คุกกี้ (cookie) เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานจากการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราและเพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพในการนำเสนอข้อมูลและ เนื้อหาต่างๆ ที่ผู้เข้าใช้งานจะได้รับชม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
โดยทางเว็บไซต์จะสร้างไฟล์ข้อมูลที่มีขนาดเล็กไว้ในอินเตอร์เน็ตเบราว์เซอร์ของผู้เข้าใช้งาน เพื่อเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานของท่าน รวมถึงเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการต่างๆ ภายในเว็บไซต์ของเรา และเมื่อผู้เข้าใช้งานกลับมาเยี่ยมชม หรือกลับเข้ามาใช้บริการในครั้งต่อไป แต่การเก็บข้อมูลด้วยคุกกี้จะไม่เก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆของท่าน การยอมรับนี้จะไม่ทำให้เครื่องของท่านติดไวรัส หรือมัลแวร์แต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อทำการวิเคราะห์ซึ่งอาจทำหรือให้บริการโดยบุคคลอื่นที่ให้บริการหรือได้รับมอบหมายให้กระทำแทนในนามของเรา เช่น Google Analytic เป็นต้น เมื่อผู้เข้าใช้งานมีการกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์โดยไม่เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าคุกกี้บนอินเตอร์เน็ตเบราส์เซอร์ อุปกรณ์ของผู้ใช้งานจะยอมรับคุ๊กกี้อัตโนมัติในการเข้าใช้งานในครั้งต่อไป ซึ่งถ้าหากผู้เข้าใช้งานไม่ต้องการให้คุกกี๊ทำการรวบรวมข้อมูล ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปลี่ยนแปลง หรือตั้งค่าการยอมรับคุกกี๊ได้ที่เมนู "การตั้งค่า" ของอินเตอร์เน็ตเบราว์เซอร์ที่ใช้งานอยู่
ยอมรับ